วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

[Exit Strategy] Part 2 : There is no “PERFECT EXIT” strategy (2)

Article 1 part 2 : There is no “PERFECT EXIT” strategy (2)
ครั้งที่แล้ว เราได้เปรียบเทียบ ระหว่าง คู่ชกสองคู่, ผลปรากฏว่า Stop แคบ ชนะ Stop กว้าง, และ การกำหนดเป้าล่วงหน้า ชนะ Trailing Stop, คราวนี้มาดูกันต่อว่า ถ้ากราฟหน้าตาเปลี่ยนไปแล้ว ผุ้ชนะรายเดิมจะยังทำกำไรได้ดีกว่าไหม


 ในรูป 3, ได้เข้า Short ที่ 1.9672 เพราะเห็น momentum การลง,
กำหนด Stop แคบ = S/L1 (บริเวณยอดใส้เทียนสูงๆนั้น)
Stop กว้าง = S/L 2 (บริเวณ High เดิม)
ในกรณีกราฟนี้ สำหรับคู่ชกแรก ไม่ว่าจะเลือกใช้ Stop แคบ หรือ กว้าง, ก็ไม่มีผลใดๆ เพราะราคาวิ่งลง เข้าทางของเรา Stop Loss จึงไม่ได้มีบทบาท,
คู่ชกอีกคู่ต่างหาก เป็นมวยคู่เอกของกราฟนี้, ผลปรากฏว่า หากเราใช้ Trailing Stop โดยการค่อยๆเลื่อน S/L ตามกราฟที่วิ่งลงมา ก็จะทำให้ได้กำไรมากกว่า การตั้งเป้าล่วงหน้า = 1.9650”, (ความจริงราคายังลงต่อจนทะลุกราฟที่แสดงไว้ ถ้าใช้วิธี Trailing Stop ตาม จะทำให้ได้กำไรประมาณ 100 pips, ขณะที่การตั้งเป้าล่วงหน้า จะได้กำไรประมาณ 10 pips)




ตัวอย่างต่อไป ตามภาพ 4, ครั้งนี้ ตลาดได้เริ่มลงมาจาก บริเวณ S/L 2, มีแท่งแดงใหญ่หลายๆแท่งลงมาอย่างหนัก แล้วก็พักตัวขึ้นไป ระหว่างการพักก็มีแท่งแดงใหญ่เกิดซ้ำอีก สองครั้ง, เราจึง Short ตอนที่เกิดแท่งแดงใหญ่หลังจากพักตัว ทำให้ได้ตามนี้คือ
ราคาทุน = 1.9530,
Stop แคบ = S/L1 บริเวณ High ล่าสุด
Stop กว้าง = S/L2 บริเวณ High ก่อนหน้านั้น (บริเวณเดียวกับ ที่ราคาเริ่มลงมาเป็นเทรน)
ในกรณีกราฟนี้ สำหรับคนที่เลือกใช้
Stop แคบ, จะโดน Stop และได้ออกจากตลาดไปบริเวณ A โดยขาดทุนเล็กน้อย, ขณะที่ Stop กว้าง จะทำให้เราได้กำไร
ส่วนอีกคู่ปรากฏว่า วิธี กำหนดเป้าล่วงหน้า = 1.9500 ก็จะกำไรประมาณ 30 pips, ขณะที่ วิธี Trailing Stop จะทำกำไรได้มากกว่านั้นอย่างเห็นได้ชัด
ฉะนั้น ในกราฟนี้ Stop กว้าง ชนะ Stop แคบ, Trailing Stop ชนะ การตั้งเป้าล่วงหน้า

จากตัวอย่างทั้ง 4 กราฟนี้, เราได้เรียนรู้สิ่งต่อไปนี้
a. ในทุกกรณี, ไม่ว่า กำไรหรือขาดทุน ก็ล้วนเป็นผลมาจาก การเลือกวิธี Stop และ Exit, สำหรับ การเข้าด้วยวิธีหนึ่งวิธี มันกลับมีวิธีออกมากมาย, การออกบางวิธีทำให้กำไร บางวิธีขาดทุน, นี่คือเหตุผลว่า ทำไมเราต้องให้ความสำคัญกับ การออก มากกว่า การเข้า, แม้ว่าการเข้าก็เป็นส่วนที่สำคัญมากก็ตาม
b. เราไม่มีทางรู้ล่วงหน้า ว่า วิธีออกไหน จะดีที่สุดสำหรับแต่ละออเดอร์, บางครั้ง การตั้ง Stop แคบดีกว่ากว้าง, บางครั้ง Stop กว้างดีกว่า, ส่วนวิธีออกด้วยกำไร บางครั้งการตั้งเป้าล่วงหน้าดีกว่า และ บางครั้ง Trailing Stop ก็ดีกว่า
ถึงตรงนี่จบ Article 1 แล้ว,
หากใครตระหนักว่า การออก สำคัญกว่า การเข้า คุณเริ่มเข้าใจแล้ว
ส่วนถ้าใครยังตามหา วิธีการออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกออเดอร์ คุณยังไม่เข้าใจเลยนี่
ตอนหน้า เราะจะมาพูดถึงหลักการออก ที่ผมคิดว่าเหมาะสมที่สุดกับผม(ผู้แต่ง Lance Beggs), ระหว่างนี้ ขอให้ระลึกไว้เสมอว่า ไม่ว่าจะเลือก Stop แบบไหน, ห้าม ปล่อยให้ราคาวิ่งผ่าน Stop นั้นโดยไม่ปิดออเดอร์, การถืออเดอร์ข้าม Stop ของเรา โดยนั่งภาวนาว่ามันจะเด้งกลับมาในทางของเรา เป็นวิธีของ การพนัน ไม่ใช่ การเทรด, ถ้าคุณทำเช่นนั้น คุณก็ต้องเรียกตัวเองว่า นักพนัน ไม่ใช่ Trader อีกต่อไป

--------------------- จบ Article 1 part 2 แปลโดย Rojer FX http://www.facebook.com/rojer.fx.3--------------

5 ความคิดเห็น:

  1. ยอดเลยครับ บทต่อไปน่าสนใจมากๆๆ
    เหมือนตอนเราเกิดมาเลย มีคนบอกว่า ตอนเกิดมีแค่วิธีเดียว แต่ตอนตายมีนับหมื่นนับแสนวิธี

    ตอบลบ
  2. ช่างเปรียบเทียบเนอะ สุดยอดจินตนาการ

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณมากครับ อ่านตอนนี้แล้ว ผมนี่นักพนันตัวยงเลย เข้าไม่เคยมี SL นั่งภาวนาอย่างเดียวเลย...5555 สุดท้าย ตบะแตก...

    ตอบลบ
  4. รอติดตามด้วยครับ ชอบมาก ๆ

    ตอบลบ