วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555

[Exit Strategy] Part 7: My Approach to Exits (2)


[Exit Strategy] Part 7: My Approach to Exits (2)
My Approach to Exits = วิธีการออกของฉัน (2)

วิธีการวาง Stop Loss ตอนเข้า
1.การวาง Stop Loss ตอนเข้า จะต้องแคบ แต่ก็ต้องกว้างพอจะทนการแกว่งในระดับ noise ได้, ในอุดมคติ คือให้วาง ไกลกว่า swing high/low เก่าเล็กน้อย หรือ ปลายแท่งเทียนที่ใช้เข้าเล็กน้อย (ขึ้นอยู่กับรูปแบบที่เหมาะสมในแต่ละครั้ง), Stop Loss ควรจะทำหน้าที่เป็นตัวพาเราออกจากตลาด ถ้าผมเข้าผิดทางหรือจังหวะ, ในกรณีที่ตลาดไม่ได้วิ่งอย่างราบเรียบ หรือ ตลาดมีตัวแท่งเทียน overlap กันมาก (Note ผู้แปล: หมายถึงมีการแกว่งตัวออก sideway เยอะ) ให้วาง stop loss ให้ไกลเพิ่มขึ้นอีกสัก 2-3 pip เผื่อทนการทดสอบเล็กๆน้อยๆ และ ทนการทะลุ Break out หลอก


ตัวอย่างหลักการวาง Stop Loss ที่ดี ซึ่งผู้แปล Rojer FX สอนใน Advance Technical Class
ใช้หลักการเดียวกับผู้แต่ง

2.ธรรมชาติของวิธีเข้าของผมคือ ถ้าเข้าถูกจริง ราคาจะวิ่งไปทางที่ผมต้องการอย่างเร็ว ดังนั้นถ้าราคาไม่เป็นไปตามที่คาด คือรู้แล้วว่าผิดทาง ผมก็จะพิจารณาออกก่อนถึง Stop Loss ที่วางไว้, เพื่อลดการขาดทุนให้น้อยลงไปอีก
2a. ผมจะออกก่อนถึง Stop Loss ถ้าการเคลื่อนไหวของราคาบอกว่า การเข้าของผมผิดแล้ว เช่น การที่ราคาอยู่นิ่งเป็นเวลานานๆ, โมเมนตัมของการวิ่งเริ่มลด หรือ เริ่มมีสัญญาณกลับตัว, เราควรออกจากตลาดไปก่อนตอนไม่แน่ใจ แล้วถ้าเห็นรูปแบบที่ควรเข้าภายหลัง ค่อยกลับเข้ามาใหม่ ซึ่งแบบนี้ดีกว่าการจะมาถือแช่ไว้แล้วภาวนาว่ามันจะถูกทาง
2b. เมื่อไหร่ก็ตามที่ไม่แน่ใจในออเดอร์ที่เข้ามาแล้ว ผมจะออกไปก่อน แล้วก็วิเคราะห์ใหม่, ดีกว่าจะปล่อยทิ้งไว้ให้ชนด้านใดด้านหนึ่งระหว่าง Target กับ Stop (Note ผู้แปล: พูดให้เห็นภาพง่ายขึ้นคือ ให้หยุดรถกลางทางได้ โดยไม่ต้องวิ่งไม่หยุดจนกว่าจะถึงจุดหมาย ทั้งจุดหมายด้านหน้า หรือ ด้านหลัง)
2c. ถ้าเวลาล่วงเลยมาสักระยะแล้ว แต่ราคามาไม่ถึงจุดที่หวังไว้ (ปกติแล้ว สามแท่งเทียน, แต่ก็ยืดหยุ่นได้ตามสภาวะตลาด) ผมจะพิจารณาออกเลย หรือ อาจจะเลื่อน Stop Loss ขึ้นมาให้แคบลงกว่าเดิม ถ้าทำได้
2d. การเทรดสวนเทรน ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดกว่ามาก พร้อมกับการคาดว่าจะออกเร็ว

การบริหาร ออเดอร์ระหว่างการถือ
1.ในกรณี โมเมนตัมของราคาเริ่มอ่อนลง ให้เลื่อน Stop ขึ้นมาอย่างเร็ว และ ในกรณีที่กำไรอยู่เล็กน้อย ถ้าทำได้ให้เลื่อน Stop มาที่เท่าทุน, ทั้งสองกรณีที่กล่าวมา ถ้าราคาแค่ย่อตัวเล็กน้อยก่อนที่ราคาจะวิ่งออกไปถูกทางของเรา อาจจะทำให้โดน Stop เร็วไป แต่ผมก็ยอมรับได้ เพราะการย่อตัวเพียงเล็กน้อยที่ว่านั้น บ่อยครั้งก็กลายเป็นการเปลี่ยนทิศไปทางตรงข้ามจริงๆ, ฉะนั้นผมถือว่าการที่ผมได้ลดความเสี่ยงลงแบบนี้ ผมทำถูกต้อง, ผมสามารถที่จะประเมินสถานการณ์ใหม่ แล้วกลับเข้าไปได้เมื่อโอกาสเหมาะ หรือ แม้ว่าราคาจะวิ่งออกไปไกลโดยไม่มีผม (ผมตกรถ) ผมก็ว่าผมทำถูก เพราะผมไม่เสี่ยงขาดทุน มากกว่าจ้องจะเอากำไร
               
2. การเทรดสวนเทรน ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดกว่ามาก พร้อมกับการคาดว่าจะเลื่อน Stop มาที่ จุดเท่าทุน

การบริหารแบบ แบ่งออเดอร์ออกเป็นส่วน
1. แม้ว่าเงื่อนไขการเทรดของผมจะใช้วิธีการออกที่เป้าที่กำหนดไว้ (กำหนด TP ล่วงหน้า) เพราะผมต้องการมีรายได้เข้ามาเรื่อยๆ, แต่ผมก็แยกการบริหารออเดอร์ออกเป็นส่วนๆ เพื่อที่ว่าจะได้มีความยืดหยุ่น

2. ส่วนแรก จะใช้วิธี กำหนด Target Point ล่วงหน้า, ตำแหน่งที่จะวาง TP นั้นแปรผันได้ตามการวิเคราะห์ตลาดของผม โดยปกติแล้วมักจะเป็น แนวรับ/ต้าน อันถัดไป อาจจะเป็น แนวรับ/ต้าน หลัก หรือ รอง ก็ได้

3. ส่วนที่สอง จะใช้วิธีใดวิธีหนึ่งตามนี้
                3a. ในตลาดที่เป็นเทรนอย่างราบเรียบ, ส่วนนี้จะใช้วิธี เลื่อน Stop Loss ไล่ตามเทรน โดยวางไว้ให้ไกลกว่า Swing High/Low ชุดก่อนหน้านี้เล็กน้อย, ถ้าเห็น Parabolic หรือ คลื่นส่งตัว อาจจะเลื่อน Stop Loss บีบเข้ามาให้แคบลงอีก โดยตำแหน่งการวาง Stop ดูจาก Time Frame ที่เล็กกว่า (Note ผุ้แปล: Parabolic กับ คลื่นส่งตัวที่ว่า หมายถึงถ้ามีการวิ่งของราคาแรงๆ) การกระทำนี้ก็เพื่อที่ให้มั่นใจว่า มีกำไรจากส่วนนี้แน่ๆ
                3b. ในตลาดที่เป็น Side way หรือ แกว่งไปมา (ไม่ว่าจะเป็นเทรนหรือไม่), ส่วนนี้ จะใช้การออกด้วยวิธี เป้าที่กำหนดไว้, โดยปกติแล้วมักจะเป็น แนวรับ/ต้าน หลักอันถัดไป (Note ผู้แปล: กรณีนี้ใช้แนวหลักอย่างเดียว ไม่ใช้แนวรอง), นี่คือวิธีมาตรฐานของผม เพราะมีสมมุติฐานว่า ตลาดเป็น Sideway 70%, ส่วนวิธีเลื่อน Stop Loss ในข้อ 3a. จะใช้ก็ต่อเมื่อเห็นชัดว่า ตลาดเป็นเทรนที่ราบเรียบเท่านั้น

4. ถ้าราคาเริ่มหยุดนิ่ง ก่อนที่จะถึงเป้าทั้งสอง (ทั้ง Stop Loss, Target Point), ส่วนแรก อาจจะออกได้ทุกเมื่อ, ส่วนที่สองอาจจะถือต่อเพื่อให้โอกาส ถึง Target Point หรือ จุดเท่าทุน, แต่ก็อาจจะปิดส่วนที่สองได้ทุกเมื่อเช่นกัน ถ้ารู้สึกว่า ความได้เปรียบหมดไปแล้ว

----------- แปลโดย Rojer FX, http://www.facebook.com/rojer.fx.3 , จบ Part 7  --------

2 ความคิดเห็น: